Monday, July 16, 2007

RAM

RAM (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำที่มีใช้งานในคอมพิวเตอร์ของเรานั่นเอง ลองเปิดฝาเคสดูก็จะพบได้ทันที มีลักษณะเป็นแผงเล็กๆรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ ติดตั้งอยู่บนเมนบอร์ดโดยเสียบอยู่กับสล๊อต ซึ่งจะมีสล๊อตมากน้อยเท่าใดนั้น ก็แล้วแต่การออกแบบเมนบอร์ดแต่ละรุ่น ทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลและเป็นแหล่งพักข้อมูลชั่วคราวเพื่อที่จะส่งไปให้ซีพียูประมวลผลนั่นเอง เมื่อประมวลผลเรียบร้อยแล้ว หน่วยความจำก็จะรับข้อมูลกลับมาเพื่อส่งไปให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ต่อไป เช่น ฮาร์ดดิสก์ หรือการ์ดแสดงผล ในด้านของประสิทธิภาพการทำงานนั้น หน่วยความจำจะมีความเร็วสูงกว่าฮาร์ดดิสก์มาก ซึ่งในการใช้งานทั่วไปซีพียูจะอ่านข้อมูลโดยตรงจากตัวหน่วยความจำเลย จึงนับเป็นส่วนสำคัญที่พีซีทุกเครื่องจะต้องมี ชนิดของแรมมีดังต่อไปนี้SDRAM.jpg

  • Synchronous DRAM (SDRAM) เริ่มใช้เมื่อปี 1998 โดย Intel ได้ออกแบบ Chipset ให้รองรับการใช้งานร่วมกับแรมแบบ SDRAM โดยเราจะสังเกตุบนตัวแรมจะมีอักษรคำว่า PC แล้วตามด้วยตัวเลขสามตัวคือ 100 และ 133 ซึ่งก็คือความเร็วของแรมทั้งสองแบบคือ PC100 และ PC133 คือทำงานที่ความเร็ว 100 MHz และ 133 MHz ปัจจุบันยังพอมีให้เห็นที่ใช้อยู่เมนบอร์ดรุ่นเก่าบ้าง แต่เริ่มหาซื้อยากเพราะตลาดของแรมถูกแทนที่ด้วยแรมแบบใหม่คือ DDR นั่นเอง วิธีสังเกตุว่าแรมเป็น sdram อีกประการก็คือให้ดูตรง mark หรือรอยบากของแรม SDRAM จะมีสองจุด ส่วน DDR จะมีแค่จุดเดียว

ddr2.jpg

  • DDR SDRAM หรือเรามักเรียกย่อๆว่า DDR คำว่า DDR ย่อมาจากคำว่า Double Data Rate ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ ที่จะเข้ามาแทนที่ SDRAM ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน เนื่องจาก DDR ได้รับการพัฒนา และ ยึดถือหลักการทำงานตามปกติของหน่วยความจำแบบ SDRAM จึงทำให้ทำงานได้เหมือนกัน SDRAM แทบทุกอย่าง แตกต่างกันตรงที่ SDRAM โดยทั่วไปจะมีการโอน ถ่ายข้อมูลเพียงครั้งเดียวในหนึ่งลูกของสัญญาณนาฬิกา ในขณะที่ DDR สามารถส่งข้อมูลได้ถึง 2 ครั้งในหนึ่งลูกของสัญญาณนาฬิกา พูดง่ายๆคือสามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับ SDRAM แบบเก่าทำให้ได้ชื่อว่า Double Data Rate นั่นเอง

444.jpg
เนื่องจากการทำงานที่เร็วกว่า SDRAM ถึงสองเท่า ตัวเลขบอกความเร็วอาจะเรียกได้สองแบบ แบบแรกเรียกตามความเร็วของแรมคือ DDR266 (266 = 133x2), 333(166x2), 400 (200x2) ซึ่งตัวเลขจะบอกความเร็วของแรมนั่นเอง หรือบางทีอาจเรียกตามอัตราการรับส่งข้อมูลคือ PC2100(DDR266), PC2700(DDR333), PC3200 (DDR400) ซึ่งก็มีความหมายเดียวกันกับตัวเลขก่อนหน้านี้นั่นเอง

lipumoxd9xx6.jpg
  • DDR2 SDRAM นั้นก็คือหน่วยความจำในยุคที่สองของ DDR SDRAM (Double Data Rate Synchronous Dynamic Random-Access memory) นั่นเอง ซึ่งในตลาดพีซีของปี 2005 นี้เริ่มมีแพลทฟอร์มออกมารองรับตัวหน่วยความจำ DDR2 กันมากขึ้น โดยหน่วยความจำแบบ DDR2 มีแนวโน้มถูกนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในอนาคต เป็นที่ทราบกันดีว่าโพรเซสเซอร์ในปัจจุบันทำงานด้วยความเร็วที่สูงมาก มากจนผู้ใช้ตามกันแทบไม่ทัน และเพื่อเป็นการรองรับกับประสิทธิภาพอันสูงส่งในการประมวลผลของโพรเซสเซอร์นั้น การเลือกใช้หน่วยความจำ DDR2 จึงเป็นอีกหนทางหนึ่งในการเพิ่ม แบนวิดท์ ให้กับระบบได้เป็นอย่างดี

ddr1ddr2.jpg


ข้อแตกแต่งระหว่าง DDR SDRAM กับ DDR2 SDRAM ก็คือรอย Mark ที่ไม่ตรงตำแหน่งกันของแรมทั้งสองแบบเพื่อป้องกันการใช้งานผิดชนิด เพราะมันจะไม่สามารถใส่สลับกานได้เลย อีกประการหนึ่งคือจำนวนของขาสัญญาณที่ไม่ตรงกัน กล่าวคือ DDR จะมีขาสัญญาณน้อยกว่า DDR2 คือ 184 ขาต่อ 240 ขานั่นเอง ปัจจุบันยังคือมีแรมทั้งสองแบบใช้กันอยู่ ขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดว่ารองรับแรมชนิดไหน หาต้องการซื้อต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าแรมที่ใช้เป็นแบบใด


ddr1vsddr2.jpg


รูปแบบการติดตั้ง RAM ทั้งที่เป็น DDR และ DDR2 มีอยู่สองแบบคือ Single channel หมายถึงตัวเมนบอร์ดรองรับการทำงานของแรมแบบ Single Channel ไม่ว่าจะติดตั้งแรมแถวเดียวหรือมากกว่าหนึ่งแถว แรมก็ยังคงทำงานแบบแบบ Single channel อยู่ตลอดเวลานั้นเอง กราฟที่เห็นเป็นการวัด Bandwidth ของแรมที่ทำงานแบบ Dual Channel และ Single Channel


dual.jpg


ส่วนเมนบอร์ดที่รองรับการทำงาแบบ Dual Channel คือต้องใส่แรมเป็นคู่ตามตำแหน่งที่บริษัทผู้ผลิดเมนบอร์ดกำหนด ซึ่งต้องเปิดคู่มือเมนบอร์ดดูเอาว่าใส่แบบใดจึงจะทำงานแบบเป็น Dual Channel โดยเราจำเป็นต้องใช้แรมอย่างน้อย 1 คู่ แรมจึงจะทำงานในแบบ Dual Channel ถ้าติดตั้งเพียงแถวเดียวก็ถือว่าเป็นการทำงานแบบ Single channel แม้ว่าเมนบอร์ดจะรองรับการทำงานแบบ Dual Channel จะต้องติดตั้งเป็นคู่เท่านั้นแรมจึงจะทำงานในลักษณะ Dual Channel วิธีตรวจสอบว่าเราติดตั้งถูกต้องและแรมสามารถทำงานได้ในลักษณะ Dual Channel ให้สังเกตุดูตอนเครื่องทำการบูต ดูคำว่า Dual Channel ว่ามีปรากฎที่หน้าจอหรือเปล่า ถ้ามีก็แสดงว่าทำงานแล้ว ถ้าไม่ก็ต้องกลับไปตรวจสอบว่า ใส่แรมไม่ถูกต้องหรือเปล่า ส่วนความเร็วในการใช้งานของแรมแบบ DDR2 นั้นก็มีตั้งแต่ 400, 533, 667, 800 ให้เลือกใช้ตามความเร็วที่ต้องการ

ข้อควรปฏิบัตอีกประการก็คือ แรมที่ติดตั้งในแบบ Dual Channel ควรจะเป็นแรมรุ่นเดียวกันยี่ห้อเดียวกันเท่านั้น การทำงานของแรมทั้งสองแบบขึ้นกับชนิดของ CPU และเมนบอร์ดว่ารองรับการทำงานแบบใด ต้องตรวจสอบกับเอกสารของผู้ผลิตเมนบอร์ดเป็นสำคัญ ส่วนที่แตกต่างกันที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ bandwidth ในการส่งถ่ายข้อมูลที่เพิ่มขึ้นนั่นเองส่วนขนาดของหน่วยความจำในเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันควรเริ่มต้นที่ 512MB ขึ้นไป เนื่องจาก Windows XP จำเป็นต้องใช้หน่วยความจำเป็นจำนวนมากในการทำงานนั่นเอง

No comments: